20 กันยายน 2554

วันนี้ในอดีต: พระราชดำรัส ๗

"...ในประเทศไทยนี้ถ้าดูจากสถิติก็มีพลเมืองเพิ่มขึ้นทุก ๆ วันจึงสันนิฐานได้ว่าพลเมืองของประเทศไทยนี้อยู่ในวัยเรียนอยู่ เป็นส่วนมากทุก ๆ ปี การที่ส่วนรวมคือประชาชนทั้งประเทศเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาเป็นสิ่งที่ดีแล้ว จึงต้องช่วยกันจัดการให้เยาวชน ให้ประชาชนที่เกิดขึ้นมาใหม่นี้ได้มีโอกาสได้รับการศึกษาที่ดี เราจะไปอาศัยรัฐบาลหรืออาศัยทางราชการที่จะช่วยให้บ้านเมืองมีความเจริญด้านเดียวไม่ได้ เพราะว่าในสมัยนี้ถือว่าเป็นสมัยประชาธิปไตย ทุกคนมีส่วนในงานของประเทศชาติ.."

พระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่คณะกรรมการบริหารมูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลน
ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๒


ข้อควรคิด
ปัจจุบันการศึกษาของไทยยังถือได้ว่ามีคุณภาพไม่เท่าเทียมกัน การศึกษาชั้นดีต้องลงทุนสูงจนกลายเป็นธุรกิจมากกว่าการให้ปัญญาคนจริง เราถูกออกแบบให้เรียนอะไรมากมายแต่กลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง หนำซ้ำต้องไปเรียนกวดวิชาเพิ่มเติมเพื่อแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย จนดูเหมือนว่าเค้าสร้างอาณาจักรธุรกิจเพื่อทำมาหากินระดับหมื่นๆ ล้าน ไม่มีทางที่คนจนหรือ "ลูกไพร่" จะมีโอกาสได้เข้าถึง พอคนไม่ได้รับการศึกษาดีๆ คนก็ไม่มีปัญญา พอโตมาก็ต้องพึ่งระบบอุปถัมภ์จากนักการเมืองและเป็นเครื่องมือในการเข้ามาสู่อำนาจเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ผ่านโครงการต่างๆ จากรุ่นสู่รุ่น นักประชาธิปไตยทั้งหลาย เราจะแก้ปัญหานี้กันอย่างไรดีโปรดชี้แนะด้วย

สำหรับผู้เขียนแล้ว
๑) เรื่องงบประมาณ เราต้องกำจัดข้าราชการและนักการเมืองที่ทุจริตคอรัปชั่นโกงกินบ้านเมือง ไม่ว่าพรรคไหน ซึ่งน่าจะได้เงินส่วนนั้นมาบริหารประเทศประมาณแสนล้านเป็นอย่างต่ำ
๒) ให้ท้องถิ่นออกแบบและบริหารจัดการการศึกษาเอง เค้าจะรู้เองว่าควรให้การศึกษากับคนในท้องถิ่นให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ประเพณี วัฒนธรรมของท้องถิ่นนั้นๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น